Ads 468x60px

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทำความรู้จัก ... Binaural Beats


       นับจากวันที่มนุษย์เริ่มรู้จักสมอง และทราบว่าสมองคือส่วนที่ควบคุมร่างกายโดยรวม จากนั้นผู้คนมากมายต่างพยายามค้นคว้าศึกษาวิธีการทำงานของสมองจนกระทั่งทราบว่าส่วนต่างๆของสมองมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน เช่น ในการพูด สมองจะส่งกระแสประสาทเชื่อมโยงไปหลายๆที่ในสมองและออกมาเป็นคำพูด โดยที่เราไม่ต้องคอยนึกว่าสมองจะต้องไปที่ไหนบ้างก่อนจะออกมาเป็นคำพูด และโดยกระบวนการศึกษาค้นคว้าด้วยวิธีที่หลากหลายนี้เองทำให้เราค้นพบกับสิ่งใหม่ ที่เป็นทางเลือกในการรักษาอาการได้หลากหลาย นั่นก็คือ Binaural Beats...


Binaural Beats ถูกค้นพบเมื่อปี 1839 โดยนักทดลองชาวเยอรมันชื่อ Heinrich Wilhelm Dove (H.W. Dove)


Fig.1 Heinrich Wilhelm Dove (H.W. Dove)



เขาพบว่าคนและสัตว์มีความสามารถในการได้ยินที่แตกต่างกัน มนุษย์สามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ประมาณ 25-19,000 Hz สุนัขสามารถได้ยินเสียงได้กว่า 45,000 Hz และช้างสามารถรับรู้เสียงได้ต่ำสุดที่ 3-4 Hz ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ช้างรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้จากระยะไกลกว่าที่ตามองเห็น แม้ว่า Dove จะเป็นผู้ค้นพบ Binaural Beats แต่ผู้ที่ทำให้ Binaural Beats เป็นที่รู้จักในทางวิทยาศาสตร์ก็คือ Gerald Oster(1973)fig.2 โดยเขาพยายามที่จะวินิจฉัยปัญหาการได้ยินและโรคทางสมอง การค้นพบของ Dove จึงกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง



Fig.2 Gerald Oster

ก่อนที่เราจะทำความเข้าใจว่า Binaural Beats ทำงานอย่างไร สิ่งที่ควรจะเข้าใจก่อนก็คือ คลื่นสมอง (Brainwaves) คลื่นสมองนี้มีที่มาจากการทำงานของเซลล์ประสาทที่มีการรับ-ส่งสารเคมีและกระแสไฟฟ้า เกิดเป็นความถี่ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นคลื่นสมอง ซึ่งวัดได้ด้วยเครื่อง EEG (Electroencephalography) มีหน่วยเป็น Hertz (Hz) คลื่นสมองที่เรารู้จักกันดี แบ่งเป็น stateได้ 5 state ดังนี



นอกจาก 5 state นี้แล้วยังมีอีก 2 state คือ Epilon waveมีความถี่ต่ำกว่า 0.5 Hz และLambda waveมีคลื่นความถี่สูงกว่า 100 Hz ทั้ง 2 state นี้มีความเกี่ยวข้องกันคือหากมองลึกลงไปใน Epilon wave จะเห็น Lambda waveฝังตัวอยู่ภายใน ในทางกลับกันหากมอง Lambda wave อย่างกว้างๆ ก็จะเห็น Epilon wave เช่นกัน การทำให้สมองอยู่ใน Epilon wave state มีความเชื่อว่าจะเป็นการเปิดจักระ หรือตาที่สามด้วย แต่หากทำให้สมองมี Lambda wave จะทำให้สามารถสัมผัสกับสิ่งลึกลับที่ร่างกายไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังคงไม่สามารถหาเครื่องมือที่จะใช้วัด state ทั้ง 2 state อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้

หากสังเกตจะเห็นว่าในแต่ละ state ของสมองยังมีความถี่ที่ละเอียดลึกลงไปอีก นั่นหมายถึงว่าสมองของมนุษย์ทุกคนต่างมีคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับตนเองแตกต่างกัน สังเกตง่ายๆว่า บางคนสามารถผ่อนคลายได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยผ่อนคลาย แต่บางคนแม้ว่าจะมีเครื่องผ่อนคลายที่ทรงประสิทธิภาพมากแค่ไหนก็ผ่อนคลายไม่ได้เลย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม เมื่อทำซ้ำๆจึงทำให้ร่างกายมีอาการต่างๆเกิดขึ้น เช่น ในผู้ที่มีอาการเกี่ยวข้องกับการนอน ก็ยังแบ่งย่อยลงไปได้อีก เช่น นอนหลับยาก หลับแล้วสะดุ้งตื่นบ่อยๆ หลับกลางวันตื่นกลางคืน นอนกรน นอนแล้วตื่นยาก หลับไม่สนิท เป็นต้น อาการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุหนึ่งมาการทำงานของคลื่นสมองที่ไม่เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆและ Binaural Beats ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้อาการที่มีอยู่เหล่านั้น ค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับ

กลับมาที่BB หากจะกล่าวในภาพรวม Binaural Beats ก็คือ ผลจากการฟังคลื่น โดยหูแต่ละข้างมีความถี่ต่างกัน โดยเกิดการ synchronize กันในสมองออกมาเป็นคลื่นความถี่ต่ำอีกคลื่นหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นสมองตามความต้องการ ตัวอย่างเช่น BB หูซ้าย 240 Hz ,หูขวา 231 Hz คลื่นความถี่ที่จะเกิดจากการ synchronize คือ 9 Hz อยู่ใน Alpha state ซึ่งหากฟังเป็นประจำจะทำให้สมองผลิตคลื่น Alpha ได้มากขึ้น ในสภาวะนี้ก่อให้เกิด การผ่อนคลาย จิตรู้สำนึกทำงานได้ดี ตระหนักรู้ความรู้สึกในตนเอง เท่าทันความคิดตนเอง

 Fig.3  Synchronize

ในต่างประเทศ สิ่งที่ทำให้ Binaural Beats เป็นที่นิยมอย่างมากคือประโยชน์ที่ชัดเจน สัมผัสได้จริง และอ้างอิงได้จากงานวิจัย เช่น การใช้ Binaural Beats เพื่อลดภาวะวิตกกังวลก่อนการผ่าตัด ref.1 ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี จากงานวิจัยนี้ทำให้ทราบได้ว่าอาการวิตกกังวลสามารถทำให้ดีขึ้นได้ผ่านการใช้ Binaural Beats อีกงานวิจัยที่น่าสนใจจาก The Monroe Institute ได้ศึกษา Binaural Beats กับภาวการณ์ตื่นตัว ref.2 ทำให้เสริมความมั่นใจได้อีกว่าการทำงานของ Binaural Beats เกี่ยวข้องกับสมองและเชื่อมโยงไปถึงคลื่นสมอง ดังนั้นการเพิ่มศักยภาพของสมองในด้านต่างๆเกี่ยวกับ สมาธิ ความสนใจจดจ่อกับการเรียน ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของสมอง ศักยภาพความจำ ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ ความแจ่มใส ฯลฯ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ ปรับปรุงได้เช่นกันโดยไม่ต้องอาศัยตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างอื่น จึงไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงในการใช้ที่เป็นไปตามความเหมาะสม 

Binaural Beats มีประโยชน์ในด้านการบรรเทาอาการและเพิ่มศักยภาพการทำงานของสมองผ่านการปรับคลื่นสมอง ได้ดังนี้
-          ลดอาการนอนไม่หลับ
-          เพิ่มความสุขในชีวิต
-          ลดการนอนกรน
-          เพิ่มความสดชื่นแจ่มใส
-          ลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ
-          ลดอาการปวดตึงศีรษะและไมเกรน
-          บรรเทาอาการวิตกกังวล
-          ลดอารมณ์เศร้า
-          เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้
-          เพิ่มความสามารถในการจดจำ
-          ลดภาวะเครียดจากการใช้สมอง
-          เพิ่มความเร็วในการเข้าสมาธิ
-          เพิ่มภาวะตื่นตัว เป็นต้น
-          พัฒนาความสามารถในการจดจ่อ
-          พัฒนาการสร้างอารมณ์
ทีนี้..ลองถามใจของคุณดูว่า ยังมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ลองปรับสมองให้เป็นไปตามที่คุณต้องการ ??
 Referent
1. R. Padmanabhan et al., (2005). Binaural beat audio and pre-operative anxiety. . 60 (Anaesthesia), pp.874-877
2. F. HOLMES ATWATER (). BINAURAL BEATS AND THE REGULATION OF AROUSAL LEVELS. [ONLINE] Available at: http://www.monroeinstitute.org. [Last Accessed 2012].


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Sample text

Sample Text

Sample Text